ตอนนี้ประเทศไทยก็เข้าสู่ฤดูฝนไปครึ่งค่อนฤดูกันแล้ว ยิ่งในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมาสายฝนโปรยปรายกันทั่วทุกพื้นที่ จนสร้างความกังวลให้กับคนรักบ้านได้ไม่น้อย นั่นก็คือความเสียหายของเฟอร์นิเจอร์ไม้ อันเกิดจากความชื้นที่มีปริมาณสูงในช่วงเวลานี้ ที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้มักมีอาการบวมพอง
วันนี้ BuilderNews จึงมีเคล็ดลับรับมือกับปัญหาเฟอร์นิเจอร์ไม้ บวม พอง จากปัญหามีเชื้อราเกิดขึ้นหากโดนฝนบ่อย ๆ มาฝากกัน
ฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงประมาณกลางเดือนตุลาคม เกิดจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมชื้นพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้เกิดสายฝนที่เย็นชุ่มฉ่ำเย็นสบายต่อใคร หลาย ๆ คน แต่ทว่าฝนกลับเป็นตัวร้ายของเฟอร์นิเจอร์ไม้เหล่านี้ ซึ่งหากดูแลไม่ดีอาจส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์เกิดความเสียหายจนถึงขั้นใช้งานไม่ได้ ดังนั้นจึงควรป้องกันหรือแก้ไขได้ดังนี้
1.ทำความสะอาด
เป็นที่ทราบกันรู้แล้วว่าเฟอร์นิเจอร์ไม้แบ่งออกเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน ทำให้การดูแลทำความสะอาดจะต้องมีวิธีที่แตกต่างกันไปตามลักษณะของเนื้อไม้ ดังนี้
เฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้เต็ง ไม้มะค่า หรือไม้ประดู่ ควรใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นออกให้หมดและใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าขนหนูชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดให้สะอาดและทิ้งให้แห้ง แต่หากมีคราบรอยเปื้อนมากสามารถใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัดออก โดยการทาด้วยน้ำผึ้งและขัดด้วยผ้าแห้งจะทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ก็จะเงางามเหมือนใหม่
เฟอร์ไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้ไผ่ หวาย หรือไม้ยาง แนะนำให้ใช้แปรงหรือไม้กวาดขนไก่ปัดฝุ่นออกแล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดออก ทิ้งไว้ให้แห้ง ถ้ามีรอยเปื้อนมากให้ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอุ่นเช็ดให้ทั่วและขัดด้วยขี้ผึ้ง ที่สำคัญไม่ควรใช้มือเปียกจับเฟอร์นิเจอร์เพราะจะทำให้เกิดรอยด่าง
2.ขจัดปัญหากวนใจจากรอยด่างและคราบน้ำ
บางครั้งหากเฟอร์นิเจอร์ไม้ตั้งอยู่ใกล้กับหน้าต่าง ก็อาจเจอกับคราบน้ำที่เกิดจากละอองฝนที่กระเด็นมาโดนจนเป็นด่างเป็นดวง สร้างความรำคาญใจให้ทุกครั้งที่เห็นไม่ใช่น้อย มีวิธีแก้ไขได้ง่ายแสนง่าย เพียงแค่ใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำให้แห้งสนิท จากนั้นใช้ผ้าสะอาดแตะมายองเนสถูลงบนรอยด่าง โดยมายองเนสจะทำให้รอยด่างจางไปจากเดิมและถ้าเนื้อไม้มีรอยขีดข่วนให้ลงใช้ยาขัดรองเท้าสีใกล้เคียงกับเฟอร์นิเจอร์
3.ป้องกันปลวกและมอด
หากใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ไปนาน ๆ เข้า เชื่อว่าหลายท่านคงจะประสบกับปัญหาพอฝนตกบ่อย ๆ อากาศชื้น มักเจอปัญหาปลวกและมอดกินไม้ทำให้เฟอร์นิเจอร์ได้รับความเสียหาย จึงมีวิธีการแก้ไขได้ง่าย ๆ ก็คือการใช้น้ำยาป้องกันแมลงกินไม้ให้ทั่วก่อนทาสี ถ้าจะลงมือเองต้องสวมถุงมือ ใส่หน้ากาก ทำงานอยู่เหนือลม และทำตามข้อควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอันตรายจากสารเคมีในน้ำยากำจัดแมลง
4.การขัดสี
เมื่อไม้ต้องเจอสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยของบ้านเรา ย่อมทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้เกิดปัญหาการหด บิด พอง และสีลอกล่อนเป็นธรรมดา แต่ทว่าสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ง่าย ๆ โดยการขัดสีที่เสียหายออกให้ถึงเนื้อไม้และไสผิวให้เรียบก่อนลงสีใหม่ พร้อมทั้งผสานการทาสีย้อมไม้ 2 – 3 ชั้น โดยแต่ละชั้นควรทาทิ้งระยะให้แห้งตัวอย่าง 6 ชั่วโมง ก่อนจะทาอีกชั้น
5.ปกป้องผิวไม้จากความชื้นและแสงแดด
อย่าคิดว่าไม้เป็นวัสดุธรรมชาติแล้วจะทนทานกับความชื้นและการแผดเผาของแสงแดดได้ชิล ๆ แต่ทว่าเป็นปัญหาตัวการสุดจี๊ดที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้เกิดรอยแยกแตกปริและปัญหาไม้บวมพองได้ แต่ทว่ามีวิธีลดปัญหาได้ด้วยการทาสีน้ำมันหรือสีน้ำพลาสติก สำหรับงานไม้โดยเฉพาะควรเตรียมพื้นผิวให้สะอาดและแห้งสนิท จากนั้นจึงทาสีน้ำมันหรือสีน้ำพลาสติกทับได้ทันที
6.ระบายอากาศในบ้าน
การระบายอากาศภายในบ้านให้ถ่ายเทไม่อับชื้น ด้วยการเปิดประตู – หน้าต่าง หรือเปิดพัดลม เพื่อเป็นการทำให้อากาศหมุนเวียน ช่วยลดความชื้นสัมพัทธ์ของห้องให้อยู่ระหว่าง 40 – 70% ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถป้องกันเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้คงสภาพสวยงาม แข็งแรง ทนทาน ได้เป็นอย่างดี
นี่เป็นเพียงเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ยาวนานขึ้น ทั้งยังช่วยให้เนื้อไม้ไม่โก่งตัวหรือบิดงอผิดรูปจนเกิดความเสียหาย แต่หากว่าต้องการให้เฟอร์นิเจอร์ไม้สวยใหม่ตลอดเวลาก็ต้องขยันหมั่นดูแลรักษาให้ถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ
Source