“ถ้าไวรัสโคโรนาสะท้อนถึงอะไรบางอย่างแล้วล่ะก็
สิ่งนั้นคงเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งไปพร้อมกับการล็อกดาวน์ของเมืองเลย”
สิ่งแรกที่คุณนึกถึง “จีน” คืออะไร?
ความอึกทึกคึกโครม ความวุ่นวาย ความแออัดของประชากร…หรือเปล่า?
แต่ถ้าเป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ตึกรามบ้านช่อง สถาปัตยกรรม หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีของจีนล่ะ คุณนึกภาพออกไหมว่าเป็นเช่นไร
หลาย ๆ คนคงพอจะนึกได้ราง ๆ แต่ไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก ทว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะวันนี้ได้มีบันทึกจากนักออกแบบสาวชาวอิตาลีนามว่า “Elizabetta” ที่ได้ไปเยี่ยมเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ประสบการณ์ต่าง ๆ กลับมามากมายเพื่อเล่าให้พวกเราได้รู้กัน
BuilderNews จึงขอเชิญทุกคนร่วมพบกับความน่าตื่นตาตื่นใจของเมืองจีนในมุมที่คุณไม่เคยพบเห็นมาก่อนไปพร้อม ๆ กับเธอกันเลย
เมื่อปีที่แล้ว Elizabetta ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศจีนเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนเทรนด์การตกแต่งภายในกับบริษัทต่าง ๆ โดยมีดีไซน์เนอร์ชาวจีนเป็นไกด์พาทัวร์ในครั้งนี้ ซึ่งเธอมองว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ เธอได้ใช้เวลาอยู่ที่ภาคใต้ของกวางโจวเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ ต่อมาไปอยู่ที่สถานที่สวยงามเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจอย่างซีเหมิน ก่อนจะไปที่เทียนจินสองวัน และค่อยเข้าสู่เมืองหลวงอย่างปักกิ่ง
นอกจากนี้ในขณะทัวร์ เธอมีโอกาสได้พบกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรม ดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ไฟแรง รวมไปถึงนักศึกษาจากสาขาการดีไซน์และการตกแต่งภายในอีกด้วย เธอได้แลกเปลี่ยนไอเดีย คำถามและวิสัยทัศน์กับพวกเขา จนสุดท้าย Elizabetta ก็ได้พบว่าเธอและพวกเขามีส่วนที่คล้ายคลึงกันมากกว่าที่เธอคิดเสียอีก
และสิ่งที่เซอร์ไพรส์เธอคือ ทั้ง “ความแตกต่างจากวัฒนธรรมของเธอเอง” และ “ความเหมือนกันอย่างคาดไม่ถึง” ของสองวัฒนธรรมนี้นั่นเอง
ซึ่งได้แก่
1.ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ตัว Elizabetta เองรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้จีนเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดในโลก แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าความก้าวหน้าเหล่านั้นจะเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของคน จนกระทั่งเธอได้ใช้เวลาส่วนหนึ่งในมหานครของจีน
เธอเห็นหญิงสาวชาวจีนคนหนึ่งออกจากบ้านโดยพกไปแค่มือถือเพียงเครื่องเดียว เพราะคุณสามารถจ่ายเงินได้ทุกที่ด้วยมือถือของคุณ ด้วยการใช้เพียงแค่คิวอาร์โค้ด หรือถ้าแบตเตอรี่มือถือใกล้หมดก็ไม่ต้องกังวล คุณสามารถชาร์จมือถือได้ทุกที่ เพราะทุกที่มีที่ชาร์จแบบพกพาซึ่งคุณสามารถพกไปไหนมาไหนกับคุณได้
และในขณะที่ทั้งโลกคุยกันเรื่องการแข่งขันกันระหว่าง 4G กับ 5G ในจีนนั้นก็ใช้ 5G กันในหลาย ๆ ที่ และกำลังพัฒนา 6G อีกด้วย
นอกจากนี้ในเรื่องของผู้ช่วยเสมือนจริง ที่ใช้การสั่งงานด้วยเสียงยังนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายภายในบ้านอีกด้วย ซึ่งมีราคาถูก และยิ่งไปกว่านั้นคือมันเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์มากในการช่วยเหลือผู้สูงอายุ และคนที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว
และแน่นอน รถไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลกก็อยู่ที่จีน ซึ่งมีชื่อว่า “Shanghai maglev”
2. มีพื้นที่สีเขียวมากกว่าที่คิด
เคยมีคนพูดกันว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมในจีนยังคงมีอยู่มากมาย นักออกแบบสาวจึงรู้สึกดีที่ได้เห็นว่าประเทศจีนกำลังพยายามที่จะสร้างวิถีชีวิตที่อนุรักษ์ธรรมชาติและยั่งยืน โดยเธอได้อยู่ที่กวางโจวซึ่งเป็นหนึ่งในมหานครที่มีพื้นที่สีเขียวและมีแนวคิดในการอนุรักษ์ธรรมชาติแบบยั่งยืนมากที่สุดในจีน
ยกตัวอย่างเช่น ยานพาหนะใหม่ ๆ ที่มาพร้อมกับการใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานหลากหลายมากขึ้น รวมไปถึง รถพลังงานไฟฟ้า (ซึ่งสามารถพบเห็นได้มากกว่าที่อิตาลีเสียอีก) ซึ่งแยกออกง่าย ๆ เพียงแค่ดูจากสีของป้ายทะเบียน (ซึ่งใช้สีเขียวเพื่อบอกว่ารถคนนั้นเป็นรถที่ใช้พลังงานทางเลือก) และสิ่งที่สำคัญที่ทำให้เทรนด์นี้มาแรงก็คือการที่รัฐบาลออกเงินสนับสนุนสำหรับยานพาหนะที่มีการใช้พลังงานทางเลือก
และสิ่งสำคัญที่สุดเลยคือคอนเซปต์ของการดีไซน์แบบหมุนเวียน การดีไซน์ที่ยั่งยืนและการดีไซน์เพื่อรักษ์โลกซึ่งกำลังกลายเป็นที่นิยมกันในจีน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นยุคใหม่
3.การเรียนรู้ของดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ในจีน
การพูดคุยกับนักศึกษาและดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ของประเทศจีนทำให้ Elizabetta รู้สึกไม่ต่างกับการพูดคุยกับทางฝั่งยุโรปเลย นอกไปจากภาษาที่ต่างกันแล้ว เธอพบว่าวิธีการเรียนรู้นั้นเหมือนกันมาก ทั้งคำถามที่พวกเขาถาม และหัวข้อสิ่งที่พวกเขาสนใจนั้นไม่ต่างกับสิ่งที่ Elizabetta คิดเลย ซึ่งล้วนแล้วแต่สนใจในเรื่องของการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นมิตรและการดีไซน์ที่รักษ์โลก
นอกจากนี้พวกเขายังสนใจการแก้ปัญหาใหม่ ๆ สำหรับพื้นที่เล็ก ๆ และการอยู่อาศัยแบบชั่วคราว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการอยู่อาศัยในจีนนั้นคือการอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่แคบมาก ๆ และบางทีก็เล็กจนผู้คนอยากได้ทางแก้ปัญหาด้วยการอยู่แบบ “co-living” มากกว่า
ตอนนี้มีดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่เกิดขึ้นในจีน และพวกเขาก็ได้สร้างสไตล์ใหม่ ๆ มากมาย โดยที่แทบไม่ต้องสนใจไอเดียของชาวตะวันตกเลยด้วยซ้ำ เพระพวกเค้าก็มีประวัติศาสตร์และประเพณีที่ยิ่งใหญ่เฉพาะตัวมากมายที่ต้องดีไซน์ออกมาไม่แพ้กัน
4.ประวัติศาสตร์และความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เนื่องจากดีไซน์เฉพาะตัวของดีไซน์เนอร์จีน ทำให้ Elizabetta พลอยหลงรักในความแข็งแกร่งของประเพณีและเอกลักษณ์ของจีน ชาวจีนภาคภูมิใจกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และประเพณีของพวกเขาอย่างมาก
เธอมาจีนในตอนแรกพร้อมกับความรู้สึกว่าเธอจะมาแชร์ข่าวและเทรนด์จากมิลานให้ชาวจีน แต่ไป ๆ มา ๆ กลับกลายเป็นว่าแท้ที่จริงแล้วเธอกลับทำให้ดีไซน์เนอร์จีนยิ่งรู้สึกได้แรงบันดาลใจจากการดีไซน์และประเพณีที่เฉพาะตัวของจีนเองซะมากกว่า
5.อยู่ได้โดยปราศจากโซเชียลมีเดีย
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งภายในและอุตสากรรมการออกแบบที่สร้างธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ Elizabetta จึงรู้สึกว่าการที่ไม่ใช้โซเชียลมีเดียนั้นค่อนข้างแปลก แต่เธอก็คิดว่ามันเป็นประสบการณ์ที่มีความหมายอย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว และทางเดียวที่จะรู้ว่าโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลกับชีวิตประจำวันขนาดไหนก็คือการได้ลองใช้ชีวิตโดยตัดขาดโลกออนไลน์ไปเลย
Elizabetta ยกตัวอย่างว่า เธอจำไม่ได้แล้วว่ามันรู้สึกยังไงตอนที่เธอแนะนำตัวเองให้แก่คนใหม่ ๆ ที่รู้จักโดยที่พวกเขาไม่สามารถเข้าไปเช็กโปรไฟล์ของเธอได้ในโซเชียลมีเดียที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอทำอะไรมาบ้าง ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดสำหรับเธอมากทีเดียว
ในจีน พวกเขาได้สร้างแอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดียที่ต่างจากทั่วโลก โดยมี WeChat ที่เป็นแอปพลิเคชันที่ทรงพลังมากเพราะเป็นแอปฯ ที่รวบรวมการทำงานของ WhatsApp, Facebook และ Paypal เรียกได้ว่ารวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในที่เดียวก็ว่าได้
ถ้าไม่มี WeChat คุณจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากนี้ฟังก์ชันบางอย่างของแอปฯ นี้ยังใช้งานได้แค่ที่จีนเท่านั้น นั่นเพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศนี้ถูกควบคุมโดยรัฐบาลนั่นเอง
แต่เธอคิดว่ามันก็ดีที่ได้ใช้เวลาสักระยะหนึ่งโดยไม่ต้องเข้าไปเช็กมือถือตลอดเวลาเพื่อดูการแจ้งเตือน ตอบข้อความ หรือแชร์สิ่งต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะการที่ไม่ต้องเอาสายตาไปจดจ่อกับหน้าจอมือถือตลอดเวลา ทำให้มีเวลาชื่มชมความงามของวัฒนธรรมที่เธอเพิ่งไปพบเจอเป็นครั้งแรกได้มากกว่าเดิม
Elizabetta กล่าวว่าเธอหวังว่าจะได้กลับไปจีนอีกเร็ว ๆ นี้ และคงได้ไปมากขึ้นในช่วงที่ผ่านพ้นช่วงโรคโควิดแพร่ระบาดอยู่อย่างตอนนี้ เธอเชื่อในความสำคัญของการแลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรมและความโชคดีที่ได้เดินทาง ได้สำรวจ เพราะสิ่งที่ได้ตามมาหลังจากนั้นก็คือ “การเติบโต”
บางทีการท่องเที่ยวอาจนำมาซึ่งประสบการณ์ใหม่ ๆ มากมาย การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ความรู้ ภาษา ฯลฯ แต่เหนือสิ่งอื่นใด มันคือการได้เปิดมุมมองและเปลี่ยนความคิดของคุณที่มีต่อบางสิ่งบางอย่างไปตลอดกาล เช่นเดียวกับที่นักออกแบบสาวชาวอิตาลีคนนี้ได้ค้นพบอีกด้านของ “จีน” นั่นเอง
อ้างอิงข้อมูลจาก